กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศ ประจำวันพุธที่ 14 มีนาคม 2550 ดังนี้ ว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนอบอ้าว และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สำหรับลมใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ อนึ่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน แพร่และน่านยังคงมีหมอกควันปกคลุมอยู่ ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดที่กล่าวมาระมัดระวังอันตรายจากหมอกควันไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 36 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคเหนือ อากาศหนาวทางตอนบนของภาคในตอนเช้า กับมีอากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศา สูงสุด 39 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และมหาสารคาม อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 37 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคกลาง อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 39 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ ชม. ภาคตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาค กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 38 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 37 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร